เหตุการณ์ที่เรียกว่า “การประท้วงตุรกี พ.ศ. 2557” เป็นหินมิลล์ที่ถูกขัดเกลาอย่าง meticulous ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของตุรกี การลุกฮือครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของปีนั้น เริ่มต้นจากการชุมนุมเล็กๆ ในกรุงอิสตันบูล แต่ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติอย่างรวดเร็ว
สาเหตุสำคัญของการประท้วงคือการที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเรเจป ไตยิップ แอร์โดอัน พยายามที่จะทำลายพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในใจกลางกรุงอิสตันบูลเพื่อสร้างห้างสรรพสินค้าใหม่ นอกเหนือจากความไม่พอใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากพื้นที่สาธารณะแล้ว ผู้ประท้วงยังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการจำกัดเสรีภาพของสื่อและการกดขี่ทางการเมือง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีภายใต้การนำของ AKP (พรรคความยุติธรรมและการพัฒนา) ได้ดำเนินนโยบายที่มีแนวโน้ม authoritarian มากขึ้น เช่น การจำกัดอิสระในการแสดงออก การควบคุมสื่อมวลชน และการกดขี่กลุ่มปฏโปครา
การประท้วงในตุรกี พ.ศ. 2557 เป็นการตอบสนองต่อความรู้สึกดังกล่าว ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการคืนสิทธิพลเมือง การเคารพสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน และการยุติการกดขี่ทางการเมือง
เหตุการณ์สำคัญ | |
---|---|
1 พฤษภาคม 2557: การชุมนุมเริ่มต้นขึ้นในอียูซาเทล (Gezi Park) ในกรุงอิสตันบูล | |
28 พฤษภาคม 2557: การใช้ความรุนแรงจากตำรวจต่อผู้ประท้วง |
การประท้วงถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรงจากฝ่ายรัฐบาล ผู้ชุมนุมถูกโจมตีด้วยแก๊สน้ำตา และหัวฉีดน้ำแรงดันสูง สถานการณ์บานปลายและขยายไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ
การประท้วงตุรกี พ.ศ. 2557 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศ
- การตื่นตัวทางการเมือง: การประท้วงทำให้เกิดการตื่นตัวทางการเมืองในหมู่ประชาชนชาวตุรกี และส่งผลให้มีการเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง
- ความไร้เสถียรภาพของ AKP:
พรรค AKP ซึ่งครองอำนาจมาหลายปี ถูกท้าทายโดยการประท้วง การสนับสนุนต่อพรรคเริ่มลดลง และเกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง
- การโต้แย้งเกี่ยวกับแนวทางของตุรกี:
การประท้วงเปิดเผยความขัดแย้งภายในประเทศตุรกี เกี่ยวกับแนวทางและทิศทางที่ประเทศควรจะดำเนินต่อไป
หลังจากการประท้วง พ.ศ. 2557 รัฐบาลตุรกีได้พยายามที่จะควบคุมสื่อมวลชนและผู้ไม่เห็นด้วยทางการเมือง การกดขี่ทางการเมืองยังคงดำเนินอยู่ และประเทศตุรกีถูกมองว่าเป็นรัฐ authoritarian
อย่างไรก็ตาม การประท้วง พ.ศ. 2557 ได้ปลุกจิตสำนึกของประชาชนชาวตุรกีและแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แข็งแกร่งต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในอนาคต เราอาจจะเห็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศตุรกีดำเนินต่อไป